สนาม"SCG Stadium (เอสซีจี สเตเดี้ยม)"
สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด ใช้สนามเอสซีจี สเตเดี้ยมเป็นสนามเหย้า โดยสนามแห่งนี้อยู่หลังอาคารชาเลนเจอร์ นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพี บ็อก ให้บริการ และพื้นที่สำหรับผู้สื่อข่าว รวมถึงห้องแถลงข่าว
สำหรับสนามเอสซีจี สเตเดียม นั้นปัจจุบันมีความจุ 17,500 ที่นั่ง ได้มาตรฐานเอเอฟซี ย้อนกลับไปปี พ.ศ 2550 สภาพสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ซึ่งยังเรียกว่า ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม แสดงพัฒนาการให้เห็นขึ้นตามลำดับ ไล่มาตั้งแต่การคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในปี 2550 ก่อนจะก้าวไปอีกขั้นกับ แชมปืดิวิชั่น 1 ในปี 2551 ต่อด้วย แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ในปี 2552 จนแฟนคลับมีจำนวนเพื่มขึ้นตามลำดับ จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามเป็น ยามาฮ่า สเตเดี้ยม พร้อมลงมือก่อสร้างอัฒจรรย์ทั้ง 3ด้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและในปี 2553 ได้ทำการปรับปรุงพื้นสนาม โดยใช้หญ้าพันธุ์ดีอย่าง "พาสพาลัม ขณะที่ส่วนอัฒจรรย์ ที่นั่งของสนามยามาฮ่าสเตเดี้ยม ยังติดตั้งเก้าอี้ จำนวน 9,000 ที่นั้ง ในอัฒจรรย์ฝั่งทิศตะวันออก และตะวันตก ปี 2555 ได้เปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์ใหม่เป็น "เอสซีจี สเตเดียม"
ราคาตั๋ว อัฒจรรย์ทิศตะวันตก (West Stand) โซน W1-W3 และ W7 120 บาท โซน W4-W6 150 บาทอัฒจรรย์ทิศตะวันออก (East Stand) โซน E1 และ E4 120 บาท โซน E2-E3 200 บาท อัฒจรรย์ทิศเหนือ (North Stand) และทิศใต้ (South Stand) 100 บาท
อนาคตทางเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดมีแผน 2 แผนคือ ต่อเติมให้มีความจุ 25,000 คน หรือสร้างสนามใหม่เพื่อรองรับแฟนบอล 30,000 คน ซึ่งใช้งบราว 500-700 ล้านบาท
ลักษณะการเชียร์ กองเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเรียกกันว่า "อุลตร้า เมืองทอง เชียร์ไม่มีหมด 90 นาที และ กิเลน N-ZONE" โดยมีฝั่งอัฒจรรย์ ทิศเหนือ และ ทิศใต้ เป็นโซนยืนเชียร์แต่ปัจจุบันได้ติดเก้าอี้แล้ว ส่วนอัฒจรรย์ทิศตะวันออก และตะวันตก เป็นที่นั่งติดเก้าอี้ทั้งหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น